เคล็ดลับการเรียนเก่งวิทยาศาสตร์

          วิชาวิทยาศาสตร์เป็นหนึ่งในวิชาหลักที่นักเรียนในช่วงวัยเรียนต้องเรียน หลายๆคนทำได้ดีในวิชานี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังทำได้ไม่ดีในวิชาวิทยาศาสตร์จนพาลไม่ชอบวิชานี้ไปโดยปริยาย วันนี้ Top-A tutor มีเคล็ดลับง่ายๆสำหรับน้องๆที่อยากเรียนวิทยาศาสตร์ให้ได้ดี นอกเหนือจากการไปลงเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ถ้าได้ลองนำไปปฏิบัติพี่เชื่อว่า เกรด 4 วิชาวิทยาศาสตร์คงไม่หนีไปไหนไกลหรอกครับ

1. ทำความรู้จักกับรากศัพท์ 

          สาเหตุหนึ่งที่ทำให้บางคนไม่ชอบวิทยาศาสตร์คือ "ชื่อเฉพาะ" นี่แหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาชีววิทยา อย่างไรก็ตามถ้าหากได้ลองหาความรู้เกี่ยวกับรากศัพท์แล้วนั้นการจำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องอยากอีกต่อไป เพราะน้องๆจะสามารถคำศัพท์จะถูกจำเป็นกลุ่มๆตามรากศัพท์ อีกทั้งศัพท์บางคำที่ไม่รู้ก็ยังสามารถเดาได้จากรากศัพท์อีกด้วย เช่น คำว่า "derm" แปลว่าผิวหนัง ดังนั้นทุกศัพท์ที่มีคำนี้เป็นรากศัพท์ก็ย่อมมีความเกี่ยวข้องกับผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็น Dermis(ชั้นหนังแท้) Epidermis(ชั้นหนังกำพร้า) Dermatologist(แพทย์ผิวหนัง) Ectoderm(เนื้อเยื่อชั้นนอกสุดของตัวอ่อน)

2. หมั่นตั้งข้อสงสัยและสมมติฐาน

          ทุกๆครั้งที่เรียนวิทยาศาสตร์นั้นควรฝึกตั้งคำถามในสิ่งที่เรียนเสมอ และตามด้วยการตั้งสมมติฐานจากความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เพราะการที่ได้ฝึกตั้งคำถาม สมมติฐานบ่อยๆนั้น จะช่วยให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีนั้นมีการเชื่อมโยงข้อมูลกันได้มากขึ้น เห็นภาพรวมของการเรียนวิทยาศาสตร์มากขึ้น และจะเรียนวิทยาศาสตร์ได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

3. จินตนาการเรื่องที่ไม่เคยมีคนสอนในห้องเรียน

           ฝึกจินตนาการในเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่เคยมีสอนในห้องเรียน โดยอาจตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าเกิดเป็นอย่างนี้......แล้ว..........จะเป็นอย่างไร เพราะการจินตนาการในลักษณะนี้ของน้องๆนั้นนอกจากจะช่วยให้สมองได้ฝึกแก้ปัญหาที่ไม่เคยเจอมาก่อนบนพื้นฐานของหลักการทางวิทยาศาสตร์แล้วนั้น ยังอาจนำไปสู้คำถามทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆที่ไม่เคยมีมาก่อนและช่วยในการพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ก็เป็นได้

4. ศึกษาให้รู้จริงถึงที่มาของสูตร

           บ่อยครั้งที่นักเรียนมักท้อในการเรียนวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาฟิสิกส์ เพราะว่า สูตรเยอะ แต่ถ้าหากน้องๆได้ลองศึกษาให้รู้จริงถึงที่มาของแต่ละสูตรนั้นจะพบว่าจำนวนสูตรที่ต้องจำนั้นลดลงเป็นอย่างมากเพราะบางสูตรสามารถพิสูจน์ได้จากอีกสูตรหนึ่ง อีกทั้งยังช่วยให้จำสูตรได้ง่ายขึ้นเพราะเข้าใจที่มาของสูตรนั้นจริงๆ ไม่ใช่เพียงนั่งท่องตัวแปรในสูตรอย่างเดียว

5. ทำ Mind map สรุปเนื้อหา

           เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์นั้นค่อนข้างเยอะ แต่อย่างไรก็ตามเนื้อหามักจะมีความเชื่อมโยงกันอยู่ในหลายๆบท ดังนั้นถ้าหากน้องๆเห็นภาพรวมของเนื้อหาแล้ว การทำความเข้าใจก็คงไม่ยากอีกต่อไป การทำ Mind map นั้นเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้น้องๆได้เห็นภาพรวมและความสัมพันธ์ของเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจวิชาวิทยาศาสตร์มากขึ้นแน่นอน

 

 


 **เรียนพิเศษตัวต่อตัว กลุ่มย่อย เรียนพิเศษที่บ้าน กับทีมติวเตอร์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งจุฬา-ธรรมศาสตร์-มหิดล-เกษตรศาสตร์

ขอบคุณภาพประกอบจาก

www.prd.go.th

www.siraekabut.com

 

 

 


ชื่อผู้ตอบ:

    • ถ้าอยากฝึกความคิดสร้างสรรค์ต้องอ่าน...การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ใครๆก็อยากมีความคิดสร้างสรรค์กันทั้งนั้น เพราะความคิดสร้างสรรค์ คือ ความสามารถที่จะประมวล ข้อมูลผ่านทั...
    • สวัสดีน้องๆทุกคนนะครับ วันนี้ Top-A tutor ก็มีบทความเกี่ยวกับเทคนิคการอ่านหนังสือมาฝากน้องๆ เพราะในชีวิตการเรียนน้องๆคงจำเป็นต้องเจอกับ การอ่านหนังสือ อีกมากมาย ทั้งอ่านหนังสื...