อยากมีไฟในการอ่านหนังสือต้องทำยังไง ?

     เคยเป็นกันไหม ? อ่านหนังสือได้แปปเดียวก็เบื่อ ก็ขี้เกียจอ่าน หรือแม้กระทั่งหลับไปคาหนังสือเลย ถึงจะรู้อยู่ว่าต้องอ่านเพื่อที่จะได้สอบได้คะแนนดี ๆ สอบติดคณะที่ต้องการ แต่มันก็หน่วง ๆ เนือย ๆ เหมือนไม่มีไฟในการอ่าน ถ้าหากเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่ใช่ไหมละครับ เพราะผลกระทบก็ตกกับตัวน้องเอง เรามาหาทางออกดีกว่าไหม ? สำหรับวิธีที่จะทำให้น้อง ๆ มีไฟในการอ่านหนังสือแม้กำลังเสียใจพี่ ๆ Top-A tutor มีคำแนะนำดังนี้

1. มองเป้าหมายไว้ให้ชัดเจน

     น้อง ๆ ต้องมองเป้าหมายของน้อง ๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อที่จะได้เดินไปได้ถูกทาง เช่น น้องอยากเป็นหมอมาก ๆ เพราะอยากช่วยเหลือผู้อื่น น้อง ๆ ก็ต้องมองให้เห็นภาพตัวเองที่เป็นหมอกำลังรักษาผู้อื่นอยู่ ซึ่งภาพนี้จะเป็นตัวนำทางและเป็นแรงผลักดันให้น้อง ๆ ไปเองว่าถ้าอยากเป็นหมอ ก็ต้องลุกขึ้นมาอ่านหนังสือตั้งแต่วันนี้สิ ! ถ้าไม่อ่านหนังสือแล้วเป้าหมายที่วางไว้มันจะเป็นจริงได้อย่างไรละ

2. นึกถึงความเสียใจในอดีต

     หลาย ๆ คนคงเคยสอบได้คะแนนไม่ดี (เช่น GAT/PAT รอบที่ผ่านมา) ในเมื่อเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ และเราก็คงไม่อยากจะรู้สึกเสียใจอย่างนั้นอีก ทำไมไม่ปรับปรุงตัวให้ดีกว่าเดิมละครับ จัดตารางอ่านหนังสืออย่างจริงจัง ตั้งใจอ่านหนังสือให้มากขึ้น พยายามให้มากกว่าคนอื่น และคิดกับตัวเองเสมอว่า “เราต้องไม่พลาดอย่างนั้นอีก !” ก็จะช่วยให้น้อง ๆ ลุกไปอ่านหนังสือได้แล้วนะครับ

3. มองคนรอบตัว

     ความฝันของน้องที่อยากเป็นนู้นเป็นนี่ หลายครั้งก็มีคนแชร์ความฝันด้วย ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ หรือ ญาติ ๆ คนอื่น ดังนั้นพวกเขาเหล่านั้นก็คงจะดีใจไม่น้อยกว่าน้อง ๆ แน่นอนถ้าหากว่าน้องทำความฝันนั้นสำเร็จ แต่ถ้าวันนี้ยังนอน ยังเล่นเกม ยังออกไปเที่ยวเล่น ความฝันไม่มีทางสำเร็จ ดังนั้นหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเพื่อทำความฝันของตัวเองและคนรอบข้างที่คอยให้กำลังใจให้เป็นจริงเถอะนะ

4. เงยหน้ามองคนที่เหนือกว่าเสมอ

     บางคนเมื่อไม่เป็นอย่างที่หวังก็จะคิดซะว่า “ยังมีอีกตั้งหลายคนที่คะแนนแย่กว่าเรา” ถ้าใครกำลังคิดอย่างนี้ หยุด ! เดี๋ยวนี้เลยครับ เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่เขาเหนือกว่า และพยายามแข่งขันกับเขาดีกว่านะ เพราะถ้ามัวแต่มองคนที่เขาอ่อนกว่า แล้วเมื่อไหร่เราจะพัฒนาไปได้กันละครับ

5. ไปนั่งอ่านกับเพื่อนที่ขยันอ่านหนังสือ

     วิธีนี้ใช้ได้ผลค่อนข้างดีในน้อง ๆ หลายคน เพราะเมื่อน้องไปนั่งอ่านหนังสือกับเพื่อนที่เขาขยันอ่านหนังสือก็จะเสมือนการบังคับให้น้องต้องอ่านหนังสือไปด้วย เพราะกดดันที่เห็นเพื่อนอ่าน หรือจะเพราะไม่มีใครรบกวนสมาธิทำให้อ่านได้นาน ข้อดีของการมีเพื่อนที่ขยัน ๆ ไปอ่านหนังสือด้วยคือเมื่อน้อง ๆ มีตรงไหนที่ไม่เข้าใจก็สามารถถามเพื่อนเหล่านั้นได้อีกด้วย เพราะเขามักจะมีความรู้มากระดับนึงอยู่แล้วละ !

6. พักสักนิดก่อนกลับมาลุยต่อ

     ในกรณีที่น้องหมดไฟจริง ๆ ทำยังไงก็อ่านหนังสือต่อไม่ไหว ไม่มีสมาธิในการอ่าน คำแนะนำของพี่คือลุกออกจากโต๊ะที่อ่าน แล้วเดินไปทำกิจกรรมอย่างอื่นสักพัก เช่น ดูทีวี ฟังเพลง เดินเล่นนอกบ้าน เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย แล้วค่อยกลับมาตั้งใจอ่านอย่างจริงจัง แต่มีข้อควรระวังคืออย่าไปพักผ่อนเพลินจนไม่กลับมาอ่านหนังสือละ ไม่งั้นก็จะไม่ได้อะไรเลย

     เป็นอย่างไรบ้างครับ กับ 6 คำแนะนำในการจุดไฟในการอ่านหนังสือของน้อง ๆ ให้ลุกโชนขึ้นมา หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ ที่กำลังท้อแท้ หมดกำลังใจ หมดแรงในการอ่านหนังสือมีกำลังใจที่มากขึ้นนะครับ “เพราะอนาคตของน้อง....ขึ้นอยู่กับตัวน้องเองนะครับ” โชคดีนะครับน้อง ๆ ทุกคน

 

 


**รับสอนพิเศษที่บ้าน สอนพิเศษตัวต่อตัว นำโดยติวเตอร์คณะแพทย์ และวิศวะ Top-A tutor

 ขอบคุณภาพประกอบจาก

www.wegointer.com

ติดตามบทความดีๆเพิ่มเติมจากพี่ๆจุฬา และมหิดล ได้ที่.....

ชื่อผู้ตอบ:

    • เชื่อว่าชีวิตวัยเรียนของทุกคนต้องเคยเจอกับวิชา หรือภาวะที่เรียกว่า “เรียนไม่รู้เรื่อง” ซึ่งเมื่อเรียนไม่รู้เรื่องก็จะไม่ชอบเรียน และทำคะแนนได้ไม่ดี วันนี้ Top-A tutor...
    • สวัสดีน้อง ๆ ที่อยากเป็นหมอทุกคนที่กำลังเตรียมตัวสอบ 9 วิชาสามัญนะครับ วันนี้ทีมพี่ ๆ คณะแพทย์จาก Top-A tutor ก็มีบทความดี ๆ มาแนะนำน้อง ๆ เกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบ 9 วิชา (จริง ๆ ...